การสร้างแรงดึงดูดของธุรกิจออนไลน์

ผมพูดในคราวที่แล้วว่า

"เราจะดึงดูดผู้คนเข้ามาหาเรา"

เราจะต้องทำอย่างไรกันละ

การที่คุณอยากจะให้คนเข้ามาหาคุณ

คุณจำเป็นต้องมีดีก่อน

ถูกต้องไหมละครับ

แล้วสิ่งที่คุณมีก็จะต้องเป็นสิ่งที่ผู้คนเหล่านั้นต้องการด้วย

คุณถึงจะสามารถมีแรงดึงดูดได้

มีคำถามว่า

แรงดึงดูดนั้นจำเป็นต่อการทำธุรกิจรึเปล่า?

ถ้าหากคุณเป็นคนทำธุรกิจ

คำตอบสุดท้ายก็คือ จำเป็นอย่างยิ่งยวด

เห็นด้วยกับผมไหมละครับ

ยกตัวอย่าง ง่ายๆที่คุณเห็นภาพได้

หากคุณทำธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยว

สิ่งที่จะดึงดูดลูกค้ามากที่สุดคืออะไรครับ

ก็คือ "ก๋วยเตี่ยว" ใช่ไหมละครับ

รสชาติมันจะต้องอร่อย ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้น น้ำซุป เครื่องเคียงต่างๆ

องค์ประกอบอื่นก็อาจจะเป็นบรรยากาศของร้าน

ร้อนรึเปล่า จอดรถสะดวกไหม สะอาดรึเปล่า

แต่องค์ประกอบหลักๆที่จะดึงดูดที่สุดก็คือตัวก๋วยเตี่ยว ถูกไหมละครับ

คุณอาจจะเคยไปร้านที่ดูไม่ค่อยจะสะอาด จอดรถยาก ร้อนอีกต่างหาก

แถมอยู่นอกเมืองอีกด้วย

แล้วทำไมคุณถึงไปกินละ

ก็เพราะว่ารสชาติของมันหาที่ใหนไม่ได้แล้วไงละครับ

นั้นก็คือคุณถูกแรงดึงดูด ดูดไปเรียบร้อยแล้วครับ

แต่การทำธุรกิจออนไลน์ต่างออกไป

หากคุณสามารถทำให้ลูกค้า

หรือคนที่อยากทำธุรกิจร่วมกับคุณมาเจอคุณได้ง่าย

และที่สำคัญที่สุดคุณสามารถที่จะดึงดูดผู้คนเหล่านั้น

ได้อย่างไม่รู้จบและที่สำคัญผู้คนเหล่านั้น

มีความต้องการที่จะอยากจะกินก๋วยเตี่ยวของคุณอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งวิชานั้นก็คือ Keyword marketing

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็คือ Mr. Mike Dillard

เคยกล่าวไว้ว่า

"คนที่ซื้อสว่านเค้าไม่อยากได้สว่านรอก แต่เค้าอยากได้รูต่างหาก"

นี้แหละครับที่เราจะสามารถสร้างตลาดในโลกออนไลน์ได้

วิชานี้ถือเป็นวิชาที่จะเริ่มต้นการทำธุรกิจออนไลน์นะครับ

แล้วพบกันบทความหน้าครับ

วิธีสร้างธุรกิจจากที่บ้าน!!!! (2)

คราวที่แล้วเราทราบแล้วว่าการทำ Hard sell บนโลกออนไลน์

เป็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะทำกันอย่างเด็ดขาด!!!

แต่ ในตอนนี้กลับกลายเป็นว่าคนก็ทำกันอยู่อย่างมากมาย

มันจึงส่งผลให้ต้นทุนทางธุรกิจที่คุณทำอยู่สูงขึ้น

แล้วมันสูงขึ้นได้อย่างไรละ?

ก็เพราะเราแข่งขันการทำธุรกิจกันมากขึ้นนั่นเอง

ยกตัวอย่าง

หากคุณกำลังทำธุรกิจอยู่แบรนด์หนึ่ง

แล้วเป็นแบรนด์ที่กำลังร้อนแรงสุดๆไปเลย

แล้วก็มีคนที่ทำธุรกิจนั้นอยู่อย่างมากมาย

ดังนั้น ทำไมผมถึงบอกว่าต้นทุนทางธุรกิจคุณจะสูงขึ้นละ

เพราะคุณก็ตองแข็งขันกับคุณที่เค้าทำอยู่อย่างมากมาย

ไม่ว่าคุณจะลงโฆษณาอย่างไรก็แล้วแต่ในโลกออนไลน์

แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาได้เจอเว็บไซด์ของคุณสักที

แล้วถ้าคุณอยากให้คนเหล่านั้นเข้ามาเจอคุณ

คุณก็จำเป็นที่จะต้องเพิ่มงบประมาณในการโฆษณาเว็บไซด์

ให้ได้อยู่หน้าแรกของกูเกิล

แล้วคุณคิดว่าโฆษณาเหล่านั้น ถ้าหากมีการแข็งขันกันสูง

คุณคิดว่าค่าโฆษณากับตัวธุรกิจของคุณ

จะถูกหรือจะแพงละ?

คำตอบก็คือ

มันแพงแน่นอน แล้วแพงมากๆมายด้วย หากการแข็งขันมันสูง

แล้วคนที่ทำแบบนี้คุณคิดว่ามีมากหรือน้อยละ

คำตอบคือ ก็มากอีกนั่แหละครับ

เพราะอะไรกันละ?

มันอยู๋ที่มุมมองครับว่า

ในเมื่อคุณมีคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เนต

แล้วคุณมองเกี่ยวโลกออนไลน์อย่างไร!!!!?????

เกี่ยวกับเว็บไซด์อย่างไร!!!!!!?????

แต่คนส่วนมากมักมองแค่เป็นช่องทางในการโฆษณาอีกแค่ช่องทางหนึ่งเท่านั้นเอง

ซึ่งความเป็นจริงแล้ว.....มันไม่ใช่เลย!!!

คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนต สามารถทำได้มากกว่าเว็บไซด์ในการโฆษณา

มันสามารถที่จะทำธุรกิจด้วยตัว

และทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆอีกด้วย

เพียงแต่ว่าคุณต้องรู้วิธีทำธุรกิจออนไลน์ซะก่อน

ที่สำคัญที่สุดคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อโลกออนไลน์

แล้วการเรียนรู้ในขั้นแรกก็คือ

ทัศนคติ

ตรงนี้สำคัญมากแทบจะมากที่สุดเลย ก็ว่าได้

โลกออนไลน์ก็คือโลกอีกใบหนึ่ง

หากคุณเคยดูหนังเรื่อง Matrix แล้วละก็

ใช่แล้วครับ ประมาณนั้นเลย เหมือนคุณเสียบปลั้ก

ถ้าใหม่หน่อยก็คือ หนังเรื่องAvartar

ืNetwork ทั้งหลายทั้งปวงที่เราใช้อยู่นี้ก็เปรียบเสมือน Pandora นั่นเอง

เมื่อทัศนคติคุณเข้าใจต่อโลกออนไลน์แล้วละก็

คุณก็จะสามารถเรียนรู้วิธีการสร้างธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แล้วมันจะทำได้อย่างไรละ

อย่างที่ผมยกตัวอย่างไว้ตอนแรก

คุณแข่งกันโฆษณาเพื่อให้คนมาเห็นคุณมากที่สุด

แต่ถ้าคุณไม่ต้องแข็งละ แล้วทำให้คนเหล่านั้นเข้ามาเห็นคุณละ

คุณว่ามันน่าสนใจไหมละทีนี้

แล้วผมจะพูดเรื่องนี้ในบทความต่อไปครับ ^^

วิธีสร้างธุรกิจจากที่บ้าน!!!! (1)

ตอนนี้เราก็ทราบกันอยู่แล้วว่า คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนต

สามารถที่จะสร้างธุรกิจได้ และที่ยิ่งกว่านั้น

คุณสามารถทำมันได้จากบ้านของคุณ

คุณเชื่อหรือไม่ละครับ

ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ และไม่เคยคิดจะเชื่อ

แต่หลังจากผมได้มาเรียนรู้การสร้างธุรกิจในโลกออนไลน์แล้วนั้น

มันยิ่งทำให้ผมอึ้งไปเลยและมากไปกว่านั้นมันสนุกมากๆอีกด้วย

แล้วเราจะใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนตอย่างไรกันละ

การเริ่มต้นในการทำธุรกิจของโลกออนไลน์นั้น

ก่อนอื่นเลยคุณจะต้องเข้าใจก่อนว่าโลกออนไลน์เป็นอย่างไร

แล้วโลกออนไลน์เป็นอยางไรละ

ในโลกออนไลน์นั้น

ผมอยากจะบอกว่าเป็นอีกมิติหนึ่งหรือเป็นโลกอีกใบหนึ่งของคุณเลยก็ว่าได้

แล้วทำไมมันถึงแบบนั้นละ

โลกออนไลน์นั้นเป็นโลกที่ตัวเราสามารถที่จะแสดงตัวตนของเราออกมาได้

อย่างเช่นตัวตนที่แท้จริงของผมหรือตัวตนที่แท้จริงของคุณ

คุณสามารถที่จะทำอะไรก็ได้อยากจะเขียนอะไรก็ได้

อยากจะถ่ายทอดให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นคนแบบใหนก็ได้

และคุณก็จะสามารถถ่ายทอดในสิ่งที่คุณไม่สมารถทำได้ในโลกแห่งความเป็นจริง

คุณก็สามารถนำมันมาถ่ายทอดยังโลกออนไลน์

แล้วการถ่ายทอดนั้นหรือการบ่งบอกตัวตนของคุณเอง

บนโลกออนไลน์นั้น คุณใช้อะไรบอกละ

คุณอาจจะใช้บล็อค หรืออาจจะใช้รูปภาพ

หรือจะแชทให้คีย์บอดพังไปเลยก็ได้

หรือคุณอาจจะใช้เว็บไซด์ที่คุณชื่นชอบ

หรือคุณอาจจะใช้พวกsocial network

สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่ถ่ายทอดตัวตนของคุณแทบทั้งสิ้น

แล้วทำไมเราต้องเข้าใจว่าโลกออนไลน์เป็นอย่างไรด้วยละ

ก็เพราะว่าโลกออนไลน์เป็นโลกที่ไม่ได้มีการรู้จักกันมาก่อนถูกต้องไหมครับ

ฉะนั้น การเกรงใจหรือการสนใจหรือการใส่ใจซึ่งกันและกันนั้น

มันไม่จำเป็นจะต้องมีเลย เพราะเรามาด้วยพื้นฐานของคนที่ไม่รู้จักกัน

พูดง่ายๆก็คือเราไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันเลย

ดังนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจซึ่งกันและกันจริงไหมละครับ

เมื่อมันเป็นเช่นนี้

คุณจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังในจุดนี้ให้มากที่สุด

แล้วอะไรก็ตามที่ติดตัวคุณมาจากโลกแห่งความเป็นจริง

ผมบอกได้เลยว่าให้คุณอย่าเอาวิธีเหล่านั้นมาใช้ในโลกออนไลน์

เปรียบเทียบเหมือนกับคุณคือเด็กทารกอีกครั้ง

แล้วในแง่ธุรกิจละ มันเป็นแบบใหนกัน

หากคุณอยากจะทำธุรกิจและต้องการขยายตลาดและหาลูกค้า

ในโลกความเป็นจริงนั้น

คุณสามารถที่จะพุ่งไปหาลูกค้าและสร้างตลาดของคุณได้

แต่ในโลกออนไลน์แล้วนั้น

ถ้าคุณพุ่งเข้าหาคนแล้วละก็

คนเหล่านั้นเค้าจะไม่สนใจคุณซ้ำร้ายกว่านั้นเค้าจะเกลียดคุณ

เพราะอะไรกันละ

คุณอย่าลืมนะครับ

โลกออนไลน์อยู่บนพื้นฐานที่เราไม่รู้จักกัน

หากคุณไปทำแบบนั้นเค้าปฎิเสธคุณได้ง่ายดายมากๆ

แทบไม่จำเป็นต้องคิดกันเลยละครับ

ฉะนั้น ให้จำไว้อยู่ตลอดเวลาเลยนะครับว่า

โลกออนไลน์ห้ามHard sell เด็ดขาด

สำหรับบทความนี้คุณก็พอจะทราบแล้วว่า

โลกออนไลน์เป็นอย่างไรแล้วนะครับ

แล้วเรามาต่อกันบทความหน้านะครับ ^^

คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนตสามารถทำงานได้ที่บ้านจริงหรือ?

ตามที่ผมได้กล่าวไว้ในบทความก่อนหน้านี้ว่าเราเข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสารอย่างเต็มที่

แล้วเครื่องมือที่สามารถทำธุรกิจได้ดีที่สุดนั้นก็คือ คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เนต

ทั้ง2สิ่งนี้สามารถทำให้คุณสร้างธุรกิจขึ้นมาได้

อาจจะมีหลายคนสงสัยอยู่ว่าเครื่องมือเพียง2สิ่งนี้มันจะสามารถสร้างธุรกิจได้จริงๆรึเปล่า?

ผมบอกได้เลยนะครับว่าทุกวันนี้โลกเราหมุนอยู่ทุกวันนะครับ

หากตัวคุณเองคิดจะทำธุรกิจแบบเดิมๆแล้วละก็

คุณนั้นละที่จะเสี่ยงต่อความล้มเหลวมากทีสุด

ผมบอกแล้วว่าเราจะต้องสามารถที่จะปรับตัวและจะต้องก้าวตามความเปลี่ยนแปลง

ที่มันได้เกิดขึ้นนี้ หากตัวคุณเองยังอยู่ที่เดิมแล้วนั้น

ผมเชื่อได้เลยว่าตัวคุณเองนั้นแหละที่จะถูกทิ้งไว้อยู่ข้างหลังเพียงลำพังแน่นอน

แล้วทำไมผมถึงมั่นใจว่าคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เนต สามารถทำธุรกิจได้ละ

งั้นผมขอถามคุณกลับเลยนะครับว่า

ณ วินาทีนี้หากคุณคิดจะทำธุรกิจสักอย่างหนึ่งคุณใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รึเปล่าละ

คุณอาจจะตอบว่าธุรกิจบางประเภทไม่จำเป็นเลยที่จะต้องใช้คอมพิวเตอร์

งั้นผมถามคุณต่อไปอีกสักหน่อยนะครับ

แล้วธุรกิที่คุณบอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์นั้น

หากคุณเลือกได้ว่าถ้าสามารถมีคอมพิวเตอร์ได้ละ

คุณคิดว่ามันจะดีกว่าไหมละครับ

คำตอบคือมันก็ต้องดีกว่าแน่นอนใช่ไหมละครับ

แค่หลักพื้นฐานในเรื่องของการจัดการเอกสารในการทำธุรกิจของคุณ คงปฎิเสธไม่ได้แน่ว่า

คอมพิวเตอร์นี่แหละครับเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ง่ายต่อการใช้ และสะดวก เราสามารถเรียนรู้

ที่จะใช้มันได้ไม่ยาก ผมคิดว่าง่ายกว่าการขับรถด้วยซ้ำไปซะอีกครับ แถมขับรถยังอันตรายกว่าด้วย

เพราะเดียวนี้มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองอะไรครับ

คุณคิดว่าพวกเราพัฒนามันไปทำไมกัน แล้วทำไมเราถึงไม่ปล่อยมันไว้อย่างงั้นละครับ

คำตอบง่ายมากๆครับ ก็เพราะว่า

มนุษย์ต้องการความสะดวกสบายที่มากขึ้น และผมบอกไ้ด้เลยว่าความต้องการตรงนี้

ไม่มีคำว่าพออย่างแน่นอน คุณเห็นด้วยกับผมไหมละครับ ^^

ตอนนี้ก็คงทราบว่าคอมพิวเตอร์จำเป็นอย่างไรแล้วนะครับ

แล้วทำไมต้องมีอินเทอร์เนตด้วยละ

ผมก็จะถามคุณกลับอีกเช่นเดิมว่า

ถ้าคุณมีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเดียว กับมีเครื่องคอมพวเตอร์พร้อมกับอินเทอร์เนต

คุณจะเลือกอย่างใหนละครับ

คำตอบง่ายมาก ง่ายสุดๆเลยก็ว่าได้มันก็ต้องมีอินเทอร์เนตด้วย

แล้วอินเทอร์เนตสำคัญไฉน

ผมก็ถามคุณง่ายๆอีกแล้วละครับว่า

คุณอยากเดินไปส่งจดหมายเอง หรือนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แล้วกดเมาท์คลิ้กส่งจดหมายกันละ แถมถึงเร็วกว่ามากๆอีกด้วย

นี่แค่ตัวอย่างพื้นฐานเองนะครับ

แล้วเมื่อเรามีคอมพิวเตอร์กับอินเทอร์เนตแล้วเราจะสามารถทำธุรกิจได้จริงๆรึเปล่า

ผมบอกเลยว่าได้แน่นอนที่สุด

แถมคุณสามารถทำธุรกิจที่ทำอยู่กับบ้านด้วย ไม่ต้องออกไปใหนให้เปลืองค่าน้ำมันอีกด้วย

ตอนนี้คุณอาจจะหาว่าผมบ้าไปกันใหญ่แล้วจริงไหมละครับ

แต่ผมบอกก่อนนะครับว่าเครื่องคอมพิวเตอร์กับอินเทอร์เนตนั้น

คุณอย่าคิดว่ามันสามารถทำได้เพียงแค่ ส่งe-mail chat เล่นเกมส์ หรือหาอะไรโหลดไปเรื่อยเปื่อย

จริงๆแล้ว มันสามารถที่จะทำเงิินให้คุณได้อีกด้วย แถมเงินที่มันทำได้นั้น

ตัวคุณหรือผมนั้นก็ไม่สามารถที่จะประเมินค่าว่าความสามารถของมัน

จะสร้างเงินได้จำนวนเท่าไร

แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุด คืออะไรรู้ไหมละครับ

สิ่งนั้นก็คือไม่ว่าตัวคุณเองหรือตัวผมเอง

ก็สามารถที่จะทำได้และสร้างธุรกิจได้ด้วยเครื่องมือ2สิ่งนี้

เพราะอะไรละ คุณก็จะมีคำถามอีกแล้ว ผมรู้ดี เพราะผมก็เคยเป็นเหมือนคุณครับ

ผมก็ถามกลับเหมือนเดิมว่าตอนที่คุณนั่งอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์นั้น

คุณมองเห็นอะไร คุณเห็นเพียงแค่หน้าจอ หรือว่าคุณเห็นคนจำนวนหลายพันล้านที่อยู่ในนั้นกัน

นี่คือปริมาณค่าการตลาดของคุณ มันมากกว่าที่คุณทำธุริกจอยู่ข้างนอกหลายล้านเท่าตัวเลย

คุณเห็นด้วยกับผมไหม

ตอนนี้ผมเชื่อว่าคุณเข้าใจแล้วว่า

คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนตสามารถทำงานได้ที่บ้านจริงๆ

บทความต่อไปผมจะบอกว่าเราจะเริ่มต้นทำธุรกิจที่บ้านของเราเองได้อย่างไร

แล้วพบกันครับ ^^

เครื่องมือการทำธุรกิจอยู่กับบ้านในยุคข้อมูลข่าวสาร

ในวินาที เราได้เข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสารอย่างเต็มที่แล้ว

แล้วเราจะเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่างที่มีอยู่มากมายมหาศาลให้เป็นขุมทรัพย์ได้อย่างไร

และมันมีเครื่องมืออะไรบ้างละที่ใช่สำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้

เครื่องมือในการทำธุรกิจที่ดีที่สุดก็คือ คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนต

นี่คือเครื่องมือในการทำธุรกิจที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้

คุณจะได้รับข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วกว่าในทีวี วิทยุ หรือสิ่งพิมพ์ต่างๆ

แล้วเราจะเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่มีมากมายมหาศาลให้เป็นขุมทรัพย์ของเราได้อย่างไรกัน

เมื่อคุณได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆนาๆที่มีมากมาย

แน่นอนที่สุด

ข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นอาจจะเป็นข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นความจริงหรือถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง

หากเราจะทำธุรกิจแล้วสิ่งสำคัญที่สุดเราจะต้องวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นให้ได้ จริงไหมละครับ เราจำเป็นต้องวิเคราะห์ให่ได้

แล้วเราจะเอาอะไรมาวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นกัน

สิ่งนั้นก็คือ

ความรู้

คุณจำเป็นที่สุดที่คุณจะต้องมีความรู้ และต้องเป็นความรู้ที่มากพอ ที่จะวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นที่เราได้รับ

หากคุณไม่มีความรู้ ผลมันจะเป็นอย่างไงละ

ผลก็คือโอกาสในการทำธุรกิจของตัวคุณเองให้ประสบความสำเร็จนั้น จะยากมาก

หรือจะแทบเรียกได้ว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่คุณจะประสบความสำเร็จในธุรกิจของคุณ

ผมขอยกตัวอย่างให้คุณเห็นกันง่ายๆ

ex.หากตอนนี้คุณกำลังประกอบธุรกิจ หรือทำธุรกิจเกี่ยวกับ การสื่อสาร พวกโทรศัพท์มือถือ

ณ วินาที นี้ ธุรกิจเกี่ยวกับมือถือนั้นเป็นยังไงละ อัตราการเติบโตของธุรกิจประเภทนี้ มีอัตราการเติบโตที่น้อยและจะน้อยลงไปเรื่อยๆ

แต่ตอนนี้นอกจากที่เรียกว่ามือถือแบบธรรมดากันแล้วนั้น ก็มีมือถือแบบที่เรียกว่า smart phone ซึ่งอัตราการเติบโตมีแต่จะสูงขึ้นๆ

สวนทางกับมือถือธรรมดา หากคุณรู้ว่ามันมีการเติบโตที่มากขึ้นโดยเช็คจากข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้น คุณก็จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยน

กลยุทธ์ในทางธุรกิจของคุณใช่ไม่ใช่ คุณต้องเน้นหนักไปทาง smart phone พร้อมกับอุปกรณ์เสริม

และบการเสริมต่างเข้ามาอย่างครบครัน คงจะเห็นภาพกันแล้วนะครับ

สำหรับบทความนี้ เราก็ได้รู้แล้วละว่าเครื่องในการทำธุรกิจในยุคนี้คืออะไีร และคุณจำเป็นที่จะต้องมีอะไร

สำหรับบทความต่อไปของผม เรามาดูว่าเครื่องมือที่ใช้ทำธุรกิจในโลกยุคนี้ที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนต

เราจะใช้มันอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด แล้วพบกันครับ ^ ^

เข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสารอย่างเต็มตัว

ทุกวันนี้เราเข้าสู่ยุคของข้อมูลข่าวสารอย่างเต็มที่

เราสามารถย่อโลกทั้งใบมาอยู่ตรงหน้าของเรา
หรือตัวเราเองสามารถที่จะติดตามตวามเคลื่อนไหวต่างๆนาๆของโลกแม้ว่าเรากำลังเคลื่อนที่อยู่
หรือแม้ว่าเราจะอยู่ที่มุมใดของโลกใบนี้เราก็จะไม่พลาดข้อมูลข่าวสารใดเลย

ดังนั้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงไปแบบนี้แล้วเราควรที่จะปรับเปลี่ยน
หรือตั้งรับหรือพร้อมที่จะรุกก่อนที่ความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น กำลังจะเข้ามาทำให้วิถีการดำเนินชีวิตของเรานั้นเปลี่ยนแปลงไป
และการปรับตัวแบบใหนละถึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
สิ่งที่เราจะต้องมีนั้นก็คือความรู้
และความรู้ตรงนี้ต้องเป็นความรู้ที่มากพอที่จะวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารมากมายเหล่านั้น ว่าเป็นอย่างไรข้อมูลใดจริงข้อมูลใดเท็จ
เราต้องสามารถที่จะคัดกรองข้อมูลเหล่านั้นให้ได้
และสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และมีผลสรุปว่าข้อมูลนั้นดีหรือไม่อย่างไร
แล้วทำไมเราต้องวิเคราะห์ข้อมูลเหล่่านั้นด้วยละ
ก็เพราะว่าข้อมูลเหล่านั้นผมอยากจะพูดว่ามันคือขุมทรัพย์ดีๆนี่เองหากคุณรู้วิธีการที่จะทำให้ข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นกลายเป็นขุมทรัพย์ และเราจะต้องทำยังไงละ มันยากไหม?
ผมตอบได้เลยว่ามันไม่ยากเลย ถ้าหากคุณเป็นคนที่ไฝ่รู้รักการเรียนรู้ และที่สำคัญที่สุดไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว นะครับ
การทำให้ข้อมูลข่าวสารนั้นแปรเปลี่ยนไปเป็นขุมทรัพย์ได้นั้นคุณจะต้องใช่ความรู้เป็นตัวเปลี่ยน
ผมจะยกตัวอย่างในแง่ของธุรกิจก็แล้วกัน
ผมจะเอาธุรกิจเกี่ยวกับการสื่อสาร ซึ่งแน่นอนที่สุด
ณ วินาทีนี้หากคุณจะเปิดร้านหรือทำกิจการเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียวตอนนี้ก็คงลำบาก
เพราะว่ามีการแข่งขันการสูงมาก และอัตราการเติบโตที่น้อยลงไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าหากคุณเห็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของสินค้าพวก smart phone
คุณจะอยู่เฉยไม่ได้แน่ๆและทุกวันนี้การเติบสินค้าประเภทนี้นับวันยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉะนั้น กิจการของคุณจะมีเพียงแต่มือถืออย่างเดียวไม่ได้แล้ว
จำเป็นจะต้องมีพวก smart phone และคุณจำเป็นที่จะต้องมีตัวที่สนับสนุนหรือส่งเสริมกับสินค้าตัวนี้อีกด้วย

ผมคิดว่าเราคงเห็นภาพกันแล้วนะครับ
นี่แหละครับเป็นสาเหตุหลักที่เราจำเป็นที่จะมีความรู้ในยุคที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารแบบนี้
และถ้าหากเราวิเคราะห์มันได้ ข้อมูลข่าวสารที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ มันก็จะกลายเป็นขุมทรัพย์ให้คุณได้โดยไม่รู้ตัว

และผมจะนำวิธีการจัดการต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มาบอกในโอกาสต่อไปนะครับ ^ ^

คู่มือการทำ "งานอิสระทำที่บ้าน"

ยุคของการทำ "งานอิสระทำที่บ้าน"


โลกของเราได้หมุนไปทุกๆวัน ประกอบกับเทคโนโลยีต่างๆที่ก้าวหน้า

ขึ้นอย่างมากมายจึงทำให้เราได้เข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสารอย่างเต็มที่

แล้วคุณสามารถสร้าง "งานอิสระทำที่บ้าน" ได้อีกด้วย

หากวันนี้เราสามารถสร้าง "งานอิสระทำที่บ้าน" ได้เอง

โดยตัวเราสามารถอยู่ที่บ้านได้จริงๆ

คุณว่ามันน่าสนใจมั้ยละครับและถ้าหากโลกได้เปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้

คุณก็ต้องตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปให้ทันคุณเห็นด้วยกับผมไหมละครับ!!

แล้วเราสามารถมี "งานอิสระทำที่บ้าน" ได้อย่างไร????


การเริ่มต้น "งานอิสระทำที่บ้าน" ก็คือ

คุณจำเป็นที่จะต้องมีในสิ่งที่เรียกว่าความรู้ก่อนครับ

และความรู้นั้นจะต้องมากพอและเป็นความรู้ที่นำไปใช้ได้จริงๆอีกด้วย

แล้วความรู้นั้นต้องเป็นความรู้เกี่ยวกับอะไรละ?

ความรู้ที่จะใช้ในการทำ "งานอิสระทำที่บ้าน" นั้น

1.คุณจะต้องรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือสร้างธุรกิจจากที่บ้านเสียก่อน

นั้นก็คือ คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนต

2.คุณจะต้องรู้เกี่ยวกับวิธีการทำตลาดของโลกออนไลน์

โดยคุณจะต้องรู้วิชาเหล่านี้ 1.keyword marketing

2. email marketing 3. article marketing

ซึ่งวิชาทั้งหมดเหล่านี้คุณจำเป็นที่จะต้องรู้ ย้ำจำเป็นที่จะต้องรู้

คุณถึงจะสามารถทำ "งานอิสระทำที่บ้าน" ได้อย่างจริงๆ

หากคุณไม่เรียนรู้ในวิชาเหล่านี้แล้วละก็!!!ผมบอกได้เลยว่า คุณอย่าทำเด็ดขาด!!!

คุณจะไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จในการสร้าง "งานอิสระทำที่บ้าน" ได้เลย

และถ้าหากคุณมีความรู้ที่มากพอในวิชาเหล่านั้นแล้ว คุณจะ

สร้างแรงดึงดูดให้กับตัวคุณได้!!!!!!!!


โดยมีคำพูดหนึ่งที่ผมชอบมากนั้นก็คือ "จงใช้แรงดึงดูดเป็นตัวสร้างตลาด"

นั้นคือคำพูดของผู้เชี่ยวชาญหรือกูรูด้าน email marketing

บุคคลนั้น ก็คือ "Mr.Mike Dillard"

ผมเห็นครั้งแรกแล้ว บอกได้คำเดียวว่า ผมงงมากๆครับ

ว่าเราจะใช้แรงดึงดูดอะไรละที่จะสร้างตลาดได้

เมื่อผมได้ศึกษาเรียนรู้ ผมก็ได้ถึงบางอ้อครับ

ว่าแรงดึงดูดนั้นก็คือ ความรู้!!!!! ครับ อยากได้ความรู้ คลิกตรงนี้เลย

เพราะความรู้เนั้นแหละคือสิ่งคุณจำเป็นที่จะต้องมีมันอย่างมากพอ

หากตัวคุณเองสามารถที่จะมีความรู้ที่มากพอจะเป็นแรงดึงดูดแล้วละก็

เมื่อนั้นคุณก็จะสามารถใช้ความรู้ของคุณเป็นแรงดึงดูด

ที่จะนำพาบุคคลเหล่านั้นเข้ามาหาคุณได้ และเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันหมดสิ้น

และคุณคิดว่าตลาดของคุณจะใหญ่ขนาดใหนกันละ?หากคุณมีความรู้ในระดับนั้น

และถ้าหากคุณสามารถทำเช่นนั้นได้แล้วละก็

คุณจะสามารถสร้างสิ่งที่เรียกว่า

"งานอิสระทำที่บ้าน" ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดครับ

รับคัมภีร์การสร้างแรงดึงดูดได้ฟรี!!! ที่นี้

เราจำกัดจำนวนที่ 10 ท่านต่อ 1 วัน เท่านั้น นะครับ